มาวิ่งเทรลกันมั้ย?

การวิ่งเทรลนั้นไม่ใช่แค่แข่งขัน แก่นแท้ของมันคือการได้สนุกกับการวิ่งต่างหาก

 

มาวิ่งเทรลกันมั้ย?

 

ผลกระทบของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ในปี 2020 ทำให้การจัดแข่งขันกีฬาทั้งหมดต้องถูกระงับหรือเลื่อนออกไปจนนักวิ่งเทรลบางคนอาจหมดไฟ  แต่การวิ่งเทรลนั้นไม่ใช่แค่แข่งขัน  แก่นแท้ของมันคือการได้สนุกกับการวิ่งต่างหาก  และการวิ่งที่สนุกๆสุดๆคือวิ่งเทรลแถบเทือกเขา

 

ปาโกเวิร์คส์จึงสร้างเป้หลังในซีรีส์ RUSH ให้เป็นของที่นักวิ่งขาดไม่ได้ในปัจจุบัน  แต่จุดกำเนิดของเป้ในซีรีส์นี้คือเพื่อวิ่งให้สนุกสนาน  ใช่เลย   RUSH คือเป้ที่จะทำให้ทุกคนวิ่งได้สนุกขึ้น  และเดี๋ยวนี้ปาโกเวิร์คส์ได้หวนกลับไปยังต้นกำเนิดเดิม  คือการวิ่งบนเขาซึ่งถือได้ว่าสนุกที่สุด  เป็นที่สุดแล้วของการวิ่ง

 

นักวิ่งสาวญี่ปุ่นชื่อชิโอริ  ซูซุกิและนัตสึมิ  ยามาอุชิที่ใช้ RUSH ตอบรับคำขอของปาโกเวิร์คทันที  ทั้งคู่คือนักกีฬาวิ่งเทรลที่เข้าแข่งขันและวิ่งเพื่อความสนุกมาตลอด  และแน่นอนว่าทั้งคู่คือแฟนพันธุ์แท้ของ RUSH

 

ซูซุกิ กับ ยามาอุชิ

ชิโอริ ซูซุกิ

ชิโอริเล่นกีฬาจริงจังมาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา  โดยได้รับอิทธิพลจากพ่อผู้เป็นนักวิ่งที่ชวนเธอมาวิ่งด้วย  จนต่อมาได้เข้าร่วมวิ่งเทรลในที่ต่างๆทั่วโลก  ไม่เพียงแค่ไปแข่งขันเพื่อทำเวลาเท่านั้นชิโอริยังได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ในเส้นทาง  ได้ช่วยเหลือและพูดคุยกับเพื่อนนักวิ่งอื่นๆด้วย

 

นัทสึมิ  ยามาอุชิ

นัทสึมิเป็นนักโดดแทรมโพลีนแข่งเมื่อยังศึกษาในมหาวิทยาลัย  ชอบการวิ่งเทรลจากการได้ไปวิ่งซ้อมแถบเทือกเขา นอกจากนี้นัทสึมิยังมีแชนเนลของตัวเองในยูทูบด้วย  เพื่อแบ่งปันความสนุกสนานในการวิ่งกับทุกคนที่สนใจ

 

วิ่งเทรลในฮาโกเนะ โซโตวายามะ

ครั้งนี้ทั้งคู่ไปวิ่งในเส้นทางยอดนิยมชื่อฮาโกเนะ โซโตวายามะ  บริเวณที่มีรีสอร์ทน้ำพุร้อนเลื่องชื่อของญี่ปุ่น โดยสามารถเริ่มวิ่งในเทรลที่มีเชื่อมถึงตัวเมืองได้เลย  เส้นทางที่มีขึ้นตั้งแต่ครั้งที่เทือกเขาฮาโกเนะเพิ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจากหินลาวาที่เย็นตัวนี้  มีระยะทางยาว 50 กิโลเมตรวนรอบ  ทั้งคู่เลือกใช้เส้นทางที่วิ่งได้สนุกยาว 14 ก.ม.อันเป็นระยะทางกำลังพอดีสำหรับนักวิ่งเทรลมือใหม่และที่มีประสบการณ์

 

 

เทรลนี้มีจุดเริ่มต้นที่ลานจอดรถของวิหารคินโตกิ  แล้วลัดเลาะไปในตัวเมืองจนมาถึงจุดสุดท้ายที่ทุ่งเซ็นโกกุฮาระ  ซูซุคิโนะซึ่งมีทางวิ่งขนานไปกับแม่น้ำ  ทั้งคู่วิ่งขึ้นเขาไปจากที่ลุ่มเซ็นโกกุฮาระไปยังช่องเขานางาโนะจนถึงสันเขาโซโตวายามะ แล้ววิ่งขึ้นเหนือไปบนสันเขาโซโตวะจนถึงหอดูดาวที่ฟูจิมิดาอิ  ต่อไปจนถึงยอด  พักกินอาหารกลางวันที่คินทาโระ  ชายะ  ก่อนจะวิ่งกลับลงสู่จุดเริ่มต้นคือลานจอดรถของวิหารคินโตกิ

 

บทความนี้เป็นการบอกเล่าตามเวลาจริง  เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพการวิ่งของชิโอริกับนัทสึมิได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ไปวิ่งให้สนุกกันเถอะ!

 

ช่วงที่ 1 : จุดเริ่มต้นที่ลานจอดรถของวิหารคินโตกิ สู่ช่องเขานางาโอะ

 

 

8.20 น.  ลานจอดรถวิหารคินโตกิ

เราเริ่มวิ่งจากจุดนี้เข้าตัวเมืองใต้ผ้าครึ้ม  บริเวณตัวเมืองอากาศดีแต่ก็เห็นเมฆลอยปกคลุมเทือกเขาโซโตวายามะ  จากการพยากรณ์คือช่วงบ่ายอากาศจะแจ่มใส  เมื่อวิ่งถึงช่องเขานางาโอะเราจึงคิดไว้ว่าเมฆที่เห็นอยู่นั่นจะจางไป

 

 

8.45 ทุ่งเซ็นโกกุฮาระ  ซูซุคิโนะ

 

เราวิ่งมาถึงทุ่งเซ็นโกกุฮาระ  ซูซุคิโนะที่เป็นจุดพักก่อนจะวิ่งตามทางอันคดเคี้ยวสู่จุดต่อไป  ครั้งนี้เรามาวิ่งกันเพื่อความสนุกจริงๆจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา  อยากหยุดตรงไหนก็หยุด ตรงนี้เองที่เป็นความสนุกของการวิ่งแบบ Fun Run

 

 

 

วิ่งย้อนกลับไปนิดหน่อยแล้วเข้าเส้นทางมุ่งสู่โซโตวายามะ  จากตรงนี้เราวิ่งได้สบายๆในแบบเทรลที่มีเส้นทางขึ้นๆลงๆไม่มากพอตึงๆขา  มีลำธารสวยเส้นหนึ่งไหลผ่านกับมีสะพานที่มีวิวสวย  จึงมีธรรมชาติอันงดงามให้ได้เห็นมากมายตั้งแต่เริ่มวิ่งแล้ว

 

ช่วงที่ 2 : เริ่มต้นที่ช่องเขานางาโอะ

 

 

9.27 : บึงเซ็นโกกุฮาระ  จุดเริ่มเส้นทางเดินป่า

เทือกเขาโซโตวายามะที่สูงตระหง่านอยู่ตรงหน้าคือจุดเริ่มต้นช่วงที่สอง  จากตรงนี้เราต้องวิ่งไต่ระดับขึ้นไปอีก 200 เมตรสู่ช่องเขานางาโอะ

 

 

 

9.50 : ช่องเขานางาโอะ

ถ้าขับรถไปตามเส้นทางนี้ที่มีอุโมงค์ต้นไม้เขียวครึ้ม  ไม่นานก็จะถึงช่องเขานางาโอะ  ถ้าใครเคยขับรถแล้วเราขอแนะนำให้ลองวิ่งตามเส้นทางนี้อีกครั้ง

 

 

 

 

เมื่อมาถึงชายป่าจะเห็นทะเลสาบอาชิอยู่เบื้องล่าง  และยังเห็นสันเขาโซโตวายามะซึ่งโอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ไว้  ซึ่งจะทำให้รู้สึกได้ว่าเราได้วิ่งมาถึงจุดหมายปลายทางหนึ่งแล้ว

 

 

10.14: ฟูจิมิดาอิ

มาถึงฟูจิมิดาอิแล้วพักผ่อน  เติมพลังให้ตัวเองด้วยอาหารที่นำติดมา  เมื่อวิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจะฝ่าเข้าไปในหมู่เมฆและอุณหภูมิจะต่ำลงอย่างรู้สึกได้ชัด  สภาพอากาศจะไม่ค่อยคงที่นักรวมทั้งระดับความสูงของเส้นทางที่จะขึ้นๆลงๆ  การวิ่งจะสะดวกสบายขึ้นได้ด้วยการปรับความพอดีของสายเป้  ดื่มน้ำไปตลอดทาง

 

จากจุดนี้ไปสู่ภูเขาอาชิงาระถือเป็นเส้นทางวิ่งที่สนุกที่สุด  ในการวิ่งไปตามสันเขาโซโตวะ

 

ช่วงที่ 3 : ฟูจิมิดาอิ - ภูเขาอาชิงาระ

 

 

เส้นทางจากฟูจิมิดาอิไปยังมารุดาเกะ และช่องเขาโอโตเมะถือว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุด  นักวิ่งทั้งสองยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่เริ่ม  แต่ก็เริ่มเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆในเส้นทางที่ทั้งคู่วิ่งได้อย่างสบาย  การใช้เป้น้ำหนักเบาทำให้วิ่งไต่ได้เร็วในแบบที่ไม่เคยพบทั้งในการเดินเขาและไต่เขา  ส่วนความรู้สึกเวียนหัวนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติของการวิ่งอยู่แล้ว

 

“เราทำเวลาได้ด้วยการวิ่ง  เพื่อจะได้เพลิดเพลินกับภูเขาได้หลายลูกซึ่งอาจต้องใช้เวลา 2 คืน 3 วันหากต้องไต่ขึ้นมา  จะใช้เวลาแค่วันเดียวยังได้ด้วยการวิ่งเทรลที่มีให้สัมผัสครบ  ทั้งทิวทัศน์อันงดงาม กลิ่นพืชและไม้ต่างๆ  กลิ่นดิน  เสียงนกร้องและเสียงลมพัด  มีหลายสิ่งบนภูเขานี้ที่จะหาไม่ได้ในเมือง  ฉันคิดว่าแต่ละสิ่งที่พูดมานี้ถูกรวบเข้ามาในเวลาสั้นๆ  ซึ่งเป็นวิธีที่แตกต่างอย่างชัดเจนในการชมธรรมชาติด้วยการวิ่งเทรลค่ะ”(นัทสึมิ ยามาอุชิ)

 

 

เป้ RUSH 12 ที่นักวิ่งสาวทั้งคู่ใช้นี้เป็นเป้ขนาดกลางที่สะพายแบบ Vest Wrap Concept ที่มีแต่เฉพาะในซีรีส์ของ RUSH เท่านั้น  ด้วยสายสะพายบ่าที่เก็บของได้เหลือเฟือ  กับส่วนของเป้หลังที่แนบกระชับจนรู้สึกเหมือน”สวมใส่”มากกว่า”แบกน้ำหนัก”  ปริมาตร 12 ลิตรของเป้นั้นเพียงพอสำหรับนำทั้งเสื้อผ้าสำรองและอาหารไปด้วยเท่าที่จำเป็น  เป็นเป้ที่เรียกได้ว่า”ครบเครื่อง”สำหรับการวิ่งได้ตลอดทั้งวัน  คล่องตัว เหมาะสำหรับผู้ที่จะมาสนุกกับการวิ่งเทรลเป็นครั้งแรก

 

 

 

11.55 ช่องเขาโอโตเมะ

หยุดพักผ่อนที่ช่องเขาโอโตเมะเพื่อกินมื้อกลางวัน  การใช้อาหารที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพลังงานนั้นเหมาะกว่าอาหารที่อยากกินเพราะอร่อย  การมีพลังงานเพื่อวิ่งจะทำให้วิ่งได้สนุกยิ่งขึ้น

 

“การวิ่งใช้พลังงานมากจึงต้องกินข้าวเป็นหลัก ฉันชอบกินและจะอ้วนง่ายมากจึงรู้สึกเหมือนตัวเองจะอ้วนอยู่ตลอด  ต้องขอบคุณการวิ่งเทรลนี้(หัวเราะ)  เพราะมันทำให้กินของอร่อยได้มากโดยไม่รู้สึกผิด  รู้สึกอร่อยมากกว่าที่เคยกินตามปกติ  ตรงนี้แหละที่รู้สึกได้ว่าการวิ่งนี่มันดีจริงๆค่ะ(นัทสึมิ  ยามาอุชิ)

 

 

 

การวิ่งขึ้นเขาลูกสุดท้ายของนักวิ่งทั้งคู่คืออาชิงาระ  ทั้งสองวิ่ง แต่ถ้าจะเดินก็ได้หากวิ่งแล้วเหนื่อยเกิน  หรือจะเดินให้เร็วขึ้นแทนการวิ่งก็ได้

 

“ฉันเคยคิดว่าต้องวิ่งเพราะฉันเป็นนักวิ่งเทรล  แต่จะเดินก็ได้นะถ้าอยากเดิน  ความเร็วของแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ  ถ้าคนที่มาวิ่งด้วยยังแข็งแรงน้อยกว่าก็ต้องช่วยเหลือกัน  การวิ่งเทรลก็คือการสู้กับภูเขาในทำนองเดียวกันการไต่เขานั่นแหละ  ที่สำคัญที่สุดคือต้องจบให้ได้อย่างปลอดภัยค่ะ”(ชิโอริ  ซูซุกิ)

 

ช่วงที่ 4 : อาชิงาระ- วิ่งกลับลงสู่คินโตกิ โตซันกุชิ

 

 

12.59: ภูเขาอาชิงาระ

 

 

ไต่ขึ้นสู่สันเขาอาชิงาระ(1212 เมตร)ที่สูงที่สุดของการวิ่งครั้งนี้  เราหยุดที่คินทาโระ ชายะแล้วกินข้าวราดแกงกะหรี่มาสะ อุด้งกันประมาณ 40 นาที  แล้ววิ่งกลับลงสู่จุดเริ่มต้นจากจุดนี้

 

 

 

 

 

14.29 คินโตกิ โตซันกุชิ

วิ่งขาลงสู่โตซันกุชิและสิ้นสุดการวิ่งเทรลที่ฮาโกเนะ โซโตวายามะ

 

 

 

หลังจากวิ่งลงเขามาเติมน้ำตาลกันที่ร้านกาแฟแถวนั้น  การได้ออกกำลังมาทำให้อาหารว่างยิ่งอร่อยขึ้นอีก  หนึ่งในสิ่งดีๆที่ฮาโกเนะคือมีร้านกาแฟและร้านของหวานมากมายให้ลิ้มลองทันทีที่ออกจากเมืองมา  เส้นทางที่โซโตวายามะครั้งนี้ไม่ยากนักเมื่อคำนึงถึงระยะทางซึ่งพอจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามได้  มีหลายสิ่งให้เห็นทั้งป่าเขาและรู้สึกว่าได้ทำบางสิ่งสำเร็จไปแล้วในการวิ่งไต่ขึ้นไป  โดยเฉพาะสันเขาโซโตวายามะนั้นถือว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับคนชอบวิ่งขึ้นเขา

 

แต่ก็มีอีกหลายจุดในภูเขาแถบนั้นที่ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างเหนือความคาดหมาย  จึงต้องตรวจสอบการพยากรณ์อากาศให้ดี  เตรียมของติดตัวไปให้พร้อม แน่นอนว่าในฤดูร้อนนั้นต้องระวังเรื่องความร้อนไว้ด้วย  อย่าลืมหาเครื่องป้องกันแสงแดดและความชื้น โดยเฉพาะการมีนักเดินเขามากมายในเส้นทางรอบๆภูเขาอาชิงาระ  ต้องระวังเสมอเมื่อเดินสวนกันในเส้นทางอันคับแคบ

 

สุดท้ายนี้คือสิ่งที่นักวิ่งทั้งสองอยากจะกล่าวถึง  

 

“ฉันวิ่งที่โซโตวะนี่อย่างสบายมากๆเพราะมองเห็นแนวสันเขาและจุดหมายข้างหน้าชัด  เมื่อมองกลับไปก็เห็นถนนตรงที่วิ่งจากมาแล้วรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ  มีวิวสวยๆหลายจุดอย่างเช่นภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบอาชิ  เข้าใจว่าตรงนี้คงเป็นเส้นทางยอดนิยมเพราะมันดี วิ่งง่าย  ครั้งนี้ฉันอยากวางเส้นทางให้มีจุดน่าสนใจอยู่ด้วยอย่างเช่นฮาโกเนะ  ยูโมโตะ, โมโตฮาโกเนะ และโอวากุดานิ  เมื่อมาวิ่งบนภูเขาค่ะ”(ชิโอริ  ซูซุกิ)

 

“จุดที่น่าสนใจของเส้นทางนี้คือมีที่สวยๆหลายที่แม้จะมีระยะแค่ 20 กิโลเมตรนิดๆ  มีหญ้าญี่ปุ่นเขียวขจีให้ดูเต็มท้องทุ่ง(จะดีกว่านี้หากจะมาในฤดูใบไม้ร่วง)  มีป่าเขียวตลอดเส้นลำธารในหมู่บ้าน  มีทะเลสาบอาชิที่สวยงามและบ้านพักบนภูเขาสวยๆบนเขาอาชิงาระ ดีเหลือเกินที่ได้กินข้าวอร่อยๆ ได้วิ่งในเส้นทางที่มีไม้เขียวครึ้มค่ะ  ครั้งนี้เป็นเส้นทางที่ต้องวิ่งขึ้นจากด้านของทะเลสาบอาชิ  ฉันจึงต้องมองกลับไปถึงจะเห็นมัน  ครั้งต่อไปอยากจะวิ่งรอบๆในเส้นทางกลับกันบ้าง มั่นใจเลยค่ะว่าคุณต้องประทับใจกับทะเลสาบอาชิแน่ๆจากเมฆหมอกจางๆที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำ  และเพราะมีเมฆบังอีกเหมือนกันเลยทำให้มองไม่ค่อยเห็นภูเขาฟูจิเท่าไร  อยากจะกลับไปแก้มืออีกครั้งจังเลยค่ะ”(นัทสึมิ  ยามาอุชิ)

 

RUSH 12 เป้สำหรับนักวิ่ง

 

 

สุดท้ายนี้  เราใคร่จะแนะนำเป้ RUSH 12 อย่างละเอียด  เช่นที่ได้กล่าวในตอนต้นแล้วว่าเป็นรุ่นความคล่องตัวสูง  เป็นที่นิยมของแบ็คแพ็คเกอร์และนักวิ่งเทรลมือใหม่  ยังอีกหลายรุ่นสำหรับการวิ่งเทรลทางไกลและการแข่งขันซึ่งบรรจุสัมภาระได้มาก  ถึงจะมีเพียงขนาดเดียวแต่ก็ปรับสายสะพายได้มาก  แม้แต่สุภาพสตรีตัวเล็กๆก็ใช้ได้ง่าย

 

 

ที่สายสะพายมีกระเป๋าเสริมสองใบทั้งบนและล่าง  ให้บรรจุของชิ้นใหญ่อย่างขวดน้ำไว้ด้านนอก  ใส่ของเล็กๆอย่างแว่นกันแดดและอาหารเสริมพลังงานไว้ด้านใน  จุดเด่นคือที่ช่องสัมภาระนอกเป้มีสายยางยืดไว้รัดขวดน้ำไม่ให้หลุดร่วง

 

 

ส่วนบรรจุสัมภาระของเป้นั้นเปิด/ปิดด้วยซิปจากด้านบน  มีช่องแยกย่อยบรรจุสิ่งของภายใน สะดวกสำหรับการบรรจุของมีค่าไว้  กระเป๋ารูดซิปเปิดแนวดิ่งอยู่ด้านหน้าให้ใช้บรรจุของใช้สำคัญที่จะใช้เร่งด่วน  เช่นอาหารเพิ่มพลังงาน

 

 

ช่องบรรจุสัมภาระก้นเป้  ล้วงหยิบของได้แม้เมื่อยังสวมเป้นั้นอยู่  สะดวกต่อการเก็บเสื้อกันลมกันฝนและถุงมือ  สายยางยืดใช้รัดของทางด้านหน้าเป้  เหมาะสำหรับรัดของที่ไม่สามารถเก็บไว้ในเป้ได้เช่นเสื้อแจ็คเก็ต

 

ความคิดเห็นจากซูซุกิและยามาอุชิ

 

“กระเป๋าย่อยใช้งานได้สะดวกมากค่ะ  ช่องใส่ขวดตรงไหล่นั่นใส่ขวดน้ำดื่มกับสมาร์ทโฟนได้  ส่วนกระเป๋าย่อยก้นเป้นั่นก็มีประโยชน์เพราะใช้เก็บเสื้อกันลมกันฝนได้  ตัวเป้ยืดได้ดี จึงแนบลำตัวไประหว่างวิ่งไม่ฟาดไปมา  มีตาข่ายนุ่มๆระบายอากาศตรงไหล่ให้สบายตัวตลอดเวลายาวนานของการวิ่ง  ตรงที่เอาไว้ใส่ชุดอุปกรณ์อาบน้ำกับที่ใช้งานในฤดูหนาวนั่นก็ดีเหมือนกันค่ะ”(ซูซุกิ)

 

“ก่อนจะมาใช้ RUSH ฉันมีปัญหากับการวิ่งมากเพราะหาเป้ที่เข้ากับตัวไม่ได้  พอเข้ามาวิ่งเทรลในปี 2019 ก็มีคนแนะนำให้ใช้ RUSH 5R แล้วพอใช้มันฉันก็ติดหนึบ  ใช้ตลอดทั้งตอนแข่งและซ้อมเหมือนกับ RUSH 12 ที่ใช้อยู่ตอนนี้ค่ะ  ตัวเป้ยืดได้ทำให้จุของได้มากแล้วก็แนบไปกับลำตัวด้วย  ไม่แกว่งไปมาตอนวิ่ง  ทำให้วิ่งได้สนุกมากๆค่ะ”(ยามาอุชิ)

 

 

SHOP Paago Works Rush 5R

 

SHOP Paago Works Rush 12