แพ็คอาหารเข้าป่าแบบมืออาชีพ

อาหารคือปัจจัยสำคัญของการเดินทางแบบแบ็คแพ็ค เป็นเชื้อเพลิงให้เรามีกำลังลุย การเลือกอาหารเป็นและนำติดตัวไปในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้การเดินทางหรือเดินป่าในทริปนั้นๆไม่น่าเบื่อ เป็นประสบการณ์ดีๆที่น่าจดจำ

โดยหลุยส์ ค็อกฮิลล์

 

ในการเดินป่าครั้งแรกที่ต้องวางแผนเรื่องการนำพาอาหาร  คือที่เต  อาราโร  การเดินทางช่วงแรกนั้นเองที่ทำให้ผมได้รู้จักการแพ็คอาหารและวางแผนการกินได้อย่างมืออาชีพ  ผมไปซื้อของในหลายร้านช่วงไม่กี่วันก่อนออกเดิน  พยายามอย่างหนักที่จะประมาณแคลอรี่ให้พอดีกับอาหาร  แล้วก็ตื่นเต้นจนคิดว่าจะเอาอาหารไปน้อยเกินจนต้องกลับมาซื้อสแน็กที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่ม  ในที่สุดก็มาถึงที่อาฮิปารา  แล้วในอีก 100 กิโลเมตรต่อมาผมก็มีอาหารเหลือมากกับเจ็บไหล่สุดๆ  การแบกอาหารไปมากๆมันก็ดีอยู่หรอก  แต่มันก็มีความแตกต่างกันอยู่ระหว่างการมี”อาหารพอ”กับการ”มีอาหารเหลือ”  คิดได้ดังนี้ผมจึงไม่ได้ซื้อของมากนักเมื่อต้องเติมเสบียง  ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกอีกเหมือนกัน

 

ผมโชคดีที่การลุยป่าจริงๆเป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น  ตอนนั้นเอาอาหารติดตัวไปแค่พอสามหรือสี่วันและได้ลองผิดลองถูก  ครั้นมาถึงช่วงที่นานและลำบากก็รู้ว่าร่างกายต้องการอะไร  และอะไรที่ควรกิน  การเดินซื้อของกินมีเวลาตั้งแต่เจ็ดถึงสิบวันแต่การวางแผนพกพาอาหารนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายและเร็ว  ในเวลาที่เดินออกมาพ้นช่วงที่ยาวที่สุดคือสิบวันในบริเวณริชมอนด์ เรนจ์  ผมเหลือแค่แท่งมูสลีไม่กี่แท่งเท่านั้นในถุงอาหารที่แทบว่างเปล่า ผมยังได้แจกอาหารฉุกเฉินกับคนที่วางแผนได้ไม่ดีจนอาหารเกลี้ยงตัวอีกด้วย  ผมต้องหาเสบียงเพิ่มอยู่หลายครั้งทีเดียวกว่าจะได้ปริมาณที่ใช่  ต่อไปนี้คือกลเม็ดที่ผมอยากแนะนำสำหรับคุณๆที่อยากวางแผนการแพ็คอาหารไปให้พอในแต่ละทริปครับ

 

 

ต้องนำอาหารติดเป้ไปมากแค่ไหนในแต่ละทริป?

 

การแบกเป้เดินทางใช้พลังงานมากจนต้องกินบ่อยเหมือนเสพติด  ความหิวโหยจึงเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ล้อเล่น  และมีหลายครั้งทีเดียวที่เราหิวได้แบบหน้ามืด  ดังนั้นต้องคำนวณปริมาณพลังงานให้เหมาะในแต่ละทริป  จะเดินขึ้นเขา? หรือเดินแบกเป้ทางเรียบๆ ง่ายๆ?  จะเดินกันวันละ 5 หรือ 15 ชั่วโมง? แล้วจะแบกเป้หนักแค่ไหนกัน?  ความต้องการพลังงานเป็นแคลอรี่จึงแตกต่างกันไปในแต่ละวันและแต่ละทริป  โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 2500 ถึง 4500 แคลอรี่

 

คุณจึงต้องทราบว่าจะไปเดินกันแบบไหนเสียก่อน  เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลประมาณปริมาณอาหาร  แล้วยังต้องดูระดับความสูง-ต่ำของเส้นทางที่จะมุ่งไปด้วย  นิตยสาร Outside ออนไลน์มีตัวช่วยคำนวณที่ดีมากๆสำหรับการประมาณแคลอรี่ที่จะเผาผลาญในหนึ่งชั่วโมง  โดยคำนวณจากน้ำหนักอาหาร  น้ำหนักเป้  สภาพและความลาดของภูมิประเทศ  ผมจึงคิดว่าการใช้สูตรนี้จะช่วยได้มากกว่าการประมาณเอาแบบไม่รู้อะไรเลย  ผมเองนั้นเดินได้ตั้งแต่ชั่วโมงละ 6 กิโลในทางราบไปจนถึงชั่วโมงละแค่กิโลเดียวในเส้นทางดินแฉะและป่ารก  ถ้าไม่รู้เส้นทางและระยะทางที่เดินได้ในหนึ่งชั่วโมงคุณก็ประมาณพลังงานที่ใช้ไม่ถูก   

 

ประเด็นคือต้องประมาณให้ได้ก่อนว่าเดินครั้งหนึ่งจะใช้พลังงานกี่แคลอรี่  แล้วค่อยเอาตัวเลขนี้มาวางแผน

 

 

จะกินอาหารแบ็คแพ็คแบบไหนถึงจะดี?

 

ทำไมนักเดินป่าถึงโปรดปรานแต่เนยถั่ว(peanut butter)?  ตอบสั้นๆก็ได้ว่ามันอร่อย  แต่ละให้ละเอียดกว่านั้นคือมันให้แคลอรี่สูงและยัดใส่เป้ได้สะดวก  อาหารแบ็คแพ็คต้องอุดมด้วยแคลอรี่ พกพาง่าย  มีสารอาหารครบ  และยังต้องอยู่ได้อีกเป็นอาทิตย์โดยไม่แช่เย็นซึ่งเนยถั่วนี่แหละใช่ กินครั้งหนึ่งแค่ 20 กรัมก็พอ  แต่ก็มีนักเดินป่าอีกมากที่ตักเข้าปากทีละครึ่งขวด  ทั้งถั่ว  แท่งมูสลี ผลไม้แห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเนื้อแห้งแดดเดียวเหล่านี้คือของที่คุณควรต้องมีในเป้

 

 

 

อาหารแห้งคือเพื่อนรักนักเดินป่า

 

ใช่เลยผมพูดถึงอาหารแห้ง  วิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดเพื่อให้ได้อาหารที่ยังคงมีสารอาหารครบ  คือการทำแห้งด้วยการแช่เยือกแข็ง(freeze dry)ซึ่งจะอยู่ได้นานกว่าอาหารอบหรือตากแห้ง  และอร่อยกว่าด้วย  หาซื้ออาหารฟรีซ ดรายได้ในร้านสินค้าเอาต์ดอร์หรือซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ  มีให้เลือกตั้งแต่สปาเก็ตตีกระป๋องไปจนถึงริซ็อตโต  ไก่อบเนยและอื่นๆ  อาหารมังสวิรัตแบบฟรีซ ดรายก็มีหากคุณต้องการ  กินง่ายๆแค่ต้มน้ำเดือดแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาทีเท่านั้น

 

แต่การซื้ออาหารฟรีซ ดรายสำเร็จมากินทั้งหมดจะราคาแพง  จะให้ดีต้องผสมผสานกัน ผมเองยังใช้อาหารฟรีซ ดรายอยู่บ้างตอนเดินในเส้นทางที่ไกลและลำบากหากต้องการแคลอรี่มากๆ  หรือไม่เช่นนั้นก็จะใช้อาหารพื้นๆอย่างบะหมี่สำเร็จรูปกับมะเขือแห้งเติมโปรทีนบ้างด้วยเนื้อปลาทูนาหรือเนื้อไก่  ถ้าทำได้  การทำอาหารแห้งเองนี้คือวิธีการเตรียมอาหารที่ดี  จะคิดค้นสูตรส่วนผสมสารอาหารอะไรก็ได้  แล้วแบ่งเป็นมื้อพอดีๆจะดีที่สุด  การทำแห้งอาจต้องใช้เวลาดังนั้นจึงต้องวางแผนให้ดี

 

 

 

การเลือกอาหารมีสารอาหารครบไปแบ็คแพ็ค

 

ผลไม้และผัก

อย่ากลัวผลไม้และผักสด  มันอาจจะหนักแต่ก็มีสารอาหารครบและอร่อย  ผมชอบพกผลไม้อย่างแคร์ร็อตไปด้วยสองสามลูกเพื่อเดินไปกินไปในช่วงสองสามวันแรกของแต่ละช่วงเดิน  ทำอย่างนี้คุณจะไม่ต้องแบกน้ำหนักกันนาน  การมีอาหารสดติดตัวยังดีต่อใจด้วยเช่นกัน  เพราะจะได้กินของที่สดบ้าง  แทนที่จะกินแต่แท่งมูสลีหรือบะหมี่สำเร็จรูปแห้งๆกันตลอดทริป

 

คาร์โบไฮเดรทคือเชื้อเพลิง

คุณต้องอยากกินคาร์โบฯแน่ๆเวลาเดินป่าเพราะมันคือเชื้อเพลิงชั้นดี  ต้องมี  แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะบวกไขมันกับโปรทีนลงในอาหารด้วย

 

ต้องมีโปรทีนด้วย

ชีสแข็งๆจะอยู่ได้นานระหว่างเดินเมื่อต้องการโปรทีนเพิ่ม  ปลาทูนา ไก่ในน้ำซอสหรือเนื้อแปรรูปอย่างไส้กรอกซาลามีนั้นดี  แล้วอย่าลืมของดีกินง่าย  อย่างก้อนชีสสามเหลี่ยมในตลับตราวัวหัวเราะ(Laughing Cow Cheese Wedge)ด้วยล่ะ  บางครั้งผมก็ซื้อมะกอกดองน้ำมันที่ร้านแถวนั้นด้วย  มันเป็นแหล่งไขมันรสชาติดีทีเดียวสำหรับมื้อกลางวัน  อย่ากลัวการเอาอาหารหลายๆชนิดไปเดินป่า  ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปกินโปรทีนอัดแท่งแทนเนื้อสดหรือเนื้อตากแห้งกันตลอด

 

 

 

อาหารเดินป่าแบบไหนที่คุณชอบ?

 

อย่าเน้นแค่น้ำหนักกับแคลอรี่เท่านั้น  คิดถึงอาหารที่ตัวเองชอบกินจริงๆด้วยก็ดี  ถ้าไม่ชอบเนยถั่วก็ไม่ต้องเอามันไปด้วย(ไม่ว่าจะมันจะให้แคลอรี่ได้มากแค่ไหนก็ตาม)  เอาของที่ชอบและให้แคลอรี่พอไปด้วยจะดีกว่า  และไม่จำเป็นต้องกินอาหารแบบเดียวทั้งสามมื้อถึงแม้ว่าจะเป็นของโปรดก็ตาม กินมากๆก็เลี่ยนเพียงแค่มอง  ให้แพ็คของไปอย่างผสมผสานแล้วจะแฮปปี้กว่า  ลองคิดถึงของอะไรที่กรอบๆเค็มๆหรือหวานนิดๆก็ดีเหมือนกัน

 

ถ้าเริ่มจะเบื่ออาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง  คุณต้องหยุดแล้วเปลี่ยนถึงแม้กำลังหิวก็ตาม  อาหารที่กินแล้วไม่รู้สึกดีนั้นไม่น่ากินหรอก

 

อาหารแบ็คแพ็คต้องปรุงง่าย

ในทริปที่ต้องตั้งแคมป์  การนั่งรอบกองไฟแล้วปรุงอาหารเองเป็นเรื่องน่าสนุก แต่ในการไปเดินป่าคุณต้องไม่เสียเวลาไปกับการทำอาหารยากๆ  ใช้อาหารแบบแบ็คแพ็คที่เตรียมง่ายและกินง่าย  ใช้เชื้อเพลิงน้อยๆจะดีกว่า  อาหารอย่างพาสตาอาจจะดูเหมือนอร่อยแต่การต้มน้ำนานๆก็ใช้แก๊ซที่พกพาไปมาก จึงควรใช้อาหารที่เปิดแก๊ซใช้น้อยกว่านั้น อย่างของแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรืออะไรที่อุ่นได้เร็วนั่นแหละ น่าจะดีกว่า

 

 

 

มีอาหารแล้วต้องวางแผน

 

ในทริปหนึ่งจะกินมื้อเช้า  กลางวัน เย็นกันมากแค่ไหน?  การแบ่งอาหารแต่ละวันออกเป็นมื้อๆจะง่ายขึ้นในการกะปริมาณอาหารที่จะกิน  การใช้แซนด์วิชแบ่งใส่ถุงไปจะง่ายที่สุด  จะกินแท่งมูสลีวันละกี่แท่ง?  มีช็อคโกแลตกินตลอดทางไหม?  ทั้งหมดนี้ให้คิดไว้เลยว่าแต่ละวันจะกินอะไรบ้างเพื่อไม่ต้องกลัวว่าจะกินมากเกิน

 

การเอาอาหารติดไปด้วยมากๆในการเดินป่าทริปสั้นๆนั้นง่าย  และเสบียงจะขาดได้ง่ายมากหากเดินไกล  อาหารสำหรับสิบวันดูจะน่ากลัวมากเมื่อต้องอัดมันลงเป้  และยิ่งน่ากลัวมากขึ้นอีกเมื่อต้องยกขึ้นแบกหลัง  จึงต้องทำตามแผนการกินแต่ละวันด้วยการแบ่งอาหารเป็นมื้อๆ  ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าตัวเองได้แพ็คอาหารติดไปพอหรือไม่

 

 

 

ทิ้งกล่องอาหารพลาสติกไว้บ้านเถอะ

 

ไม่เอากล่องอาหารกินเนื้อที่มากติดเป้ไปแล้วใช้ถุงใส่อาหารเบาๆแทน นอกจากกล่องอาหารจะกินเนื้อที่แล้วมันยังหนักด้วย  ถุงซิปล็อคหรือถุงแห้ง(dry bag)นี่แหละคือคำตอบ  มันทั้งแห้งและเบา  ไม่กินเนื้อที่และเก็บรักษาอาหารได้ดีด้วย  ตอนเริ่มเดินป่าใหม่ๆผมยังไม่ได้คิดถึงถุงอาหาร  ทำแค่ยัดเสบียงลงเป้แล้วพอหิวก็ควานๆหาเอามากินเท่านั้น  อีกไม่กี่วันต่อมานั่นแหละถึงจะเข้าใจเรื่องการใช้ถุงรวม  มันทั้งเป็นระเบียบเรียบร้อยและยังป้องกันแมลงหรือสิ่งแปลกปลอมมาปนเปื้อนได้ด้วย การใช้ถุงพลาสติกปิดแน่นจะป้องกันกลิ่นไปล่อหนูหรือสัตว์อื่นเข้ามาขโมยอาหารได้  และถ้าหากอาหารในถุงย่อยเกิดทะลักออกมามันก็จะเปื้อนอยู่แค่ในถุงใหญ่นั้น  ไม่ไหลออกมาทำให้ถุงนอนหรือของอื่นๆในเป้เสียหาย

 

 

เก็บเสบียงไว้เผื่อฉุกเฉินบ้างก็ดี

 

การพกอาหารเผื่อไว้สักครึ่งหรือหนึ่งวันเต็มนั้นเป็นความคิดที่ดี  เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างติดพายุหรือน้ำท่วมเฉียบพลันจะได้ไม่ต้องเร่งรีบ  เพราะความเร่งรีบเพื่อหาเสบียงอาหารเพิ่มนั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุ  เมื่อผมพกอาหารไปมากนั้นมันน่ารำคาญ  แต่พกไปน้อยก็เครียดและดูเหมือนประมาท  เมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตเอาต์ดอร์นั้นบางครั้งก็ต้องเลือกความปลอดภัยไว้ก่อนความสบาย

การหิวโหยบ้างเป็นเรื่องปกติ  เรายังรอดอยู่และความหิวโหยเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเดินป่า  แต่การปล่อยให้หิวโซนั้นอันตรายเพราะมันจะส่งผลต่อพลังงานและขีดความสามารถในการเดินป่า  มีหลายครั้งที่นำไปสู่การตัดสินใจพลาดเมื่อต้องเข้าเมืองไปก่อนทั้งที่อาหารยังเหลือเพียบ

 

 

จงเรียนรู้

 

ทุกคนรู้ได้เองว่าอยากกินอะไรหรือแบบไหนในป่า  การกินในเส้นทางที่ใครๆใช้กันนั้นสังเกตได้เพียงแค่ชายตามองคนอื่นแล้วรู้สึกดีไปด้วย  หรือรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อเห็นใครๆกินของแปลกหรือทำอาหารสูตรแปลกๆที่เขาว่ามันอร่อย  การเรียนรู้ระหว่างเดินป่าจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ  คุณจึงต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกให้ได้แล้วค้นหาให้ได้ว่าอาหารแบบไหนที่ใช่

 

ขอให้สนุกกับการเดินป่า  และสนุกกับการลดน้ำหนักด้วยอาหารว่างครับ

 

>>>Shop Camping Gear

 

Thank You : https://seatosummit.com/blog/backpacking-food-ideas-and-meal-planning-101/