ร่วมเดินทางและผจญภัยไปกับดั๊ก แม็คและพอล หลีกหนีวิถีชีวิตอันจำเจไปใช้ชีวิตเอาต์ดอร์อย่างไร้กังวล สนุกสนานกับการท่องไพรได้เต็มที่ กับ Mystery Ranch.
Good Luck Bucks
Published 2022-02-08
By: Paul Kemper
ประเพณีนั้นมีหลากรูปแบบ สำหรับบางคนมันคือการได้ไปอยู่ในกระท่อมของครอบครัวเพื่อล่ากวางในช่วงแรกๆ สำหรับอีกหลายคนมันคือการไปพบปะกันตอนปลายปีเพื่อร่วมกันล่า สำหรับชาวมอนตานาอย่างดั๊ก คริงส์กับแดน แม็คมาสเตอร์แล้ว มันคือการล่าสัตว์เล็กด้วยกับดักมาตลอด แต่ในปีนี้ดั๊กกับแดนและผมจะเริ่มประเพณีใหม่กัน
ผมพบกับดั๊กเมื่อห้าปีก่อนในการตั้งแคมป์ที่เทศกาลล่าสัตว์และตกปลาในดินแดนห่างไกลของมอนตานา มีเพื่อนของกันและกันมากมายแต่ไม่เคยพบกันจริงๆเลย พอได้มาพบกันก็”คลิก”จากการเป็นคนชอบยิงธนูธรรมดาเหมือนกัน เราล่าทั้งกวาง หมี และไก่งวงด้วยกัน และดั๊กก็เป็นคนที่ผมต้องมาหยุดเพื่อดูหลังจากยิงกวางเอลค์ได้ตัวแรก เราล่าด้วยกันมาตลอดและผมคิดว่าดั๊กคือหนึ่งในเพื่อนสนิท ผมพบกับแดนในคืนหนึ่งแล้วดื่มเบียร์กันระหว่างคุยเรื่องการล่าสัตว์กับดั๊กในห้องรับแขก ก่อนจะออกไปแคมป์ล่ากวางเอลค์ ซึ่งเราสนิทกันทันที
หลายปีมานี้แดนทำงานดับไฟป่า เขาเดินทางไปในหลายรัฐก่อนจะมาหยุดที่เกาะเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสกา แดนมีเครือข่ายของเพื่อนๆที่ชอบล่ากวางแบล็คเทลในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสกา เขาเสนอความคิดเรื่องการใช้ธนูแบบอัลไพน์ดั้งเดิมไปล่ากวางเวลเว็ต แบล็คเทล และไม่ต้องสอนอะไรกับเรามากเลยเมื่อเข้าร่วมวงด้วย
ดั๊กมาล่าสัตว์ที่อลาสกาอยู่สองสามครั้ง แต่ผมเองเพิ่งมาได้ครั้งเดียวในแถบนี้ เราใช้เวลาช่วงฤดูร้อนเตรียมการเพื่อทริปนี้ โดยไม่รู้ว่าการล่าแถบตะวันออกเฉียงใต้จะโหด ต้องเรียนการใช้ธนูแบบ 3D อยู่หลายหลักสูตร ต้องวิ่ง เดินป่าพร้อมแบกเป้ฝ่าควันและไฟอยู่ในเมืองบิ๊ก สกายแถบมอนตานา มาถึงทางตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสกาในช่วงที่อากาศดี สวยงามสุดๆ มีเวลาสามวันให้ล่าได้เต็มที่ก่อนหิมะจะตกหนัก เราทิ้งกระเป๋าสัมภาระมาจัดของลงเป้แล้วสวมบูทลุยทันทีที่มาถึง เป้ของเราหนักจริง แต่ใจเรานั้นไม่หนักเลย
เราเดินผ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญในจุดหยุดพักก่อนเดินป่า พวกเขาถ่ายรูปกันขณะเราเตรียมตัว
“พวกคุณไปล่าสัตว์กันมาเหรอ?” นักท่องเที่ยวคนหนึ่งถาม
“ยังครับ แค่กำลังจะไปล่า” ผมตอบ
“ล่าอะไรครับ?” นักท่องเที่ยวคนเดิมถามต่อ
“ล่ากวางกับไก่ป่าครับ ถ้าไม่ผิดแผนนะ” ผมตอบ
“ว้าว! ด้วยธนูนี่เหรอครับ? โชคดีนะ!” คุยกับเขาเสร็จเราก็เดินทางต่อ
ผมคิดเรื่องการคุยกันเมื่อครู่ขณะเราเดินขึ้นเขา มันช่างน่าตลก คือเราเป็นกลุ่มคนที่สวมชุดพรางใช้ธนูที่จะมาผจญภัยในป่าแถบอลาสกา กับพวกนักท่องเที่ยวที่สะดวกสบายนั่งเรือหรูสะอาดเอี่ยมที่ว่าพวกเขาก็”ผจญภัย”เหมือนกัน
เราเดินกันต่อ
เมื่อเดินขึ้นเขาสูงขึ้นเส้นทางก็เปลี่ยนจากดินเหนียวไปเป็นดินแข็ง ผมยังไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเส้นทางแบบนี้ การเดินบนดินแข็งมันง่ายจริง แต่การต้องไต่ขึ้นที่สูง 2,600 ฟุตกับเป้หนัก 60 ปอนด์กับข้อต่อที่เจ็บปวดไปทุกย่างก้าว มันทำให้เราสงสัยว่าพื้นแข็งๆนี่มันยอมลดราวาศอกให้สะโพกกับหัวเข่าของเราบ้างหรือไง หลังจากหยุดพักดื่มน้ำที่ระดับ 1,500 ฟุตแล้วเราก็แบกเป้เดินทางช่วงสุดท้ายจนถึงยอด
ไม่นานป่าฝนทึบๆก็จางลงเมื่อเราเริ่มไต่สูงขึ้น มีหนองน้ำเล็กๆกระจายตัวออกไปในดงไม้ใหญ่ขณะเราเดินผ่านดงเฟิร์นกับไม้อื่นๆไว้เบื้องหลัง เราถอดเป้แล้วตั้งแคมป์ เริ่มส่องหาเป้า ห่างไปทางตะวันตกของที่พักเราเจอกวางตัวแรก เป็นตัวเมียที่หมอบอยู่ชายป่ามีหนองน้ำกระจายตัวอยู่ทั่ว เจอกวางตัวผู้อีกตัวเป็นกวางหนุ่ม ยืนอยู่ริมผากับดงต้นอัลเดอร์ทางตะวันออก เราจำตำแหน่งไว้ขณะอาทิตย์ตกแล้วก่อกองไฟประกอบอาหารเย็น
แดนเอากุ้งลายจุดใส่ถุงมาด้วย เขาจับมันได้ที่นอกเกาะแล้วสร้างความประหลาดใจให้ดั๊กกับผมด้วยอาหารสุดอร่อยรอบกองไฟ หลังจากความเหนื่อยอ่อนตลอดวันของการเดินทาง จัดเป้ เดินป่า และส่องหาสัตว์ การได้กินของอร่อยๆเหนือความคาดหมายในแคมป์ไฟนี้มันช่างเหมือนฝันจริงๆ
มีการเปรียบเทียบอีกอย่างที่เกิดขึ้นในใจผม คือผมเริ่มเช้านี้ในสนามบินกับผู้คนเป็นร้อยๆและอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว ก่อนจะมาถึงช่วงเย็นที่ยอดเขา กำลังกินกุ้งลายจุดรอบกองไฟที่มองลงไปเป็นอ่าวน้ำเค็ม ผมไม่เคยคิดว่าโปรตีนจะเป็นของหวานได้ แต่เนื้อกุ้งนี้หวานที่สุดและเป็นโปรตีนที่สุดอร่อยเท่าที่เคยกินมา ไม่นาน เราทั้งสามที่เป็นนายพรานผู้มีความสุขก็เข้านอน
วันรุ่งขึ้นเราตื่นมาพร้อมกับดวงอาทิตย์แล้วออกส่องกวาง ระหว่างอยู่แคมป์นั้นเราส่องกล้องไปยังเนินเขาเขียวชอุ่ม มองหากวางตัวสีเหมือนแครอทที่หัวคล้ายกำมะหยี่ แล้วทันใดนั้นก็พบกวางหลายตัวกำลังเดินอยู่เชิงเขา จำนวนของพวกมันทำเราตื่นเต้น แต่ก็รู้ว่าการจะล่าให้สำเร็จนั่นก็อีกเรื่องเพราะจะล่าได้แต่กวางตัวผู้เท่านั้น กวางแบล็คเทลเป็นสัตว์ค่อนข้างตลก ท่าทางการเดินข้ามหนองน้ำของมันคล้ายกลางคาริบู คือเดินอย่างสบายๆ และเงียบขณะที่มนุษย์อาจจะจมโคลนตายไปแล้ว มีเขาคล้ายกวางไวท์เทลกับมีใบหน้าคล้ายตัวฬ่อ มีขนเป็นสีแถบคู่สวยตรงลำคอ ขนเป็นสีส้มกับขาสั้นๆป้อมๆดูคลายไส้กรอกที่กำลังจะโป่งทะลุเปลือกออกมา
เราเฝ้าดูกลุ่มกวางที่เหมือนไส้กรอกเวียนนานี้กิน นอน แล้วหายไปในป่าลึกบนภูเขาของเกาะ เมื่อมันลับตาไปแล้วเราจึงออกเดินตามลมเข้าไปในป่าโปร่งด้วยความหวังจะล่าพวกมันให้ได้สักตัวโดยไม่แตกตื่นเสียก่อน แผนคือต้องมองให้เห็นแต่ไกลแล้วเข้าหาอย่างเงียบเชียบช้าๆนี้ต้องใช้ประสบการณ์สูงจึงจะทำได้เนียน
บริเวณนั้นค่อนข้างดูพื้นที่ได้ยาก ไม่มีหนทางชัดๆให้เข้าถึงพวกมันได้เลย ดินที่ดูเหมือนแข็งๆนั้นย่ำลงไปจริงอาจจมถึงเอว ตรงที่ดูเหมือนนุ่มกลับรับน้ำหนักคนสองคนที่ย่องตามกันไปได้จนสุด เราต้องเดาทางเดินไปแบบก้าวต่อก้าวขณะเข้าหากวาง ในมอนตานานั้นผมเคยพยายามจะหลีกเลี่ยงกิ่งต้นสนและแคคตัสให้ได้ในช่วงสุดท้ายของการแกะรอย แต่ในอลาสกาผมคงทำแค่หวังให้เดินต่อไปได้เท่านั้น
ดั๊กกับผมเขาหาเป้าหลังจากเห็นกวางตัวหนึ่งในเช้านั้น ขณะที่แดนบุกป่าทางด้านหลังแคมป์ออกไป เราตามกวางไปเรื่อยๆจนมาหยุดนิ่งเมื่อกวางตัวเมียตัวหนึ่งก้าวเข้ามาอยู่ในระยะยิง แต่เราจะยิงได้เฉพาะตัวผู้จึงได้แต่ใช้เวลาเฝ้าดูมัน เมื่อมาถึงตรงนี้จุดที่กวางนอนอยู่นั้นดูแตกต่างไปมากจากจุดที่เราเห็นเมื่อเช้า
การแกะรอยผ่านดงต้นอัลเดอร์นำเรามาสู่ชะง่อนผาตรงที่เห็นกวางตัวผู้หมอบอยู่เมื่อคืนก่อน หน้าผาค่อนข้างชันปกคลุมด้วยพืชเปียกน้ำคือหนทางเดียวที่จะเดินลงไป หลังจากเดินลงมาตามลาดผาเปียกๆเราก็คิดจะเสี่ยงโชคดับป่าที่ราบ หลังจากสองสามชั่วโมงของการแช่งด่า ลื่นไหลลงมาตามลาดผาเราก็มาถึงที่ราบลุ่ม เมื่อมองกลับไปยังหน้าผาชันข้างหลังดั๊กกับผมก็สงสัยกันอยู่ว่าเราบ้าไปแล้วหรือไงกัน
เรายังคงตามรอยกวางอย่างไร้ผลต่อมาอีกสามวันไปในพื้นที่อันไม่คุ้นเคย ในวันที่สี่มีผืนเมฆหนาเคลื่อนตัวเข้ามา เราจึงตัดสินใจจะเก็บแคมป์แล้วลองเสี่ยงเดินตามทางลากซุง ด้วยความหวังว่าจะส่องเจอกวางสักตัวในระดับต่ำลงไปใต้หมู่เมฆ แต่ก่อนอื่นเราต้องทำตัวให้สดชื่นก่อนด้วยการอาบน้ำ กินอาหารร้อนๆและตกปลาแถวๆเกาะมากิน เราใช้เวลาทั้งวันไปกับการตกปลาแซลมอน ปลาฮาลิบัต กุ้งและปูท่ามกลางฝนกระหน่ำ ดิคพ่อของแดนตอนนั้นอยู่ในเมืองกับโอลีเพื่อนเก่าของเขา เราจึงมีเวลาได้นั่งโม้ ได้หาอาหารสำหรับทริปกลับบ้านและวางแผนจะออกล่าในเที่ยวสุดท้าย
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะนั้นเป็นสาธารณะ เราดูแผนที่และพบกับพื้นที่สองสามแห่งที่มีถนนเข้าถึง เพื่อให้เราเข้าถึงภูเขาได้ตั้งแต่ตีนเขาถึงยอดเขาแล้วกลับลงมาได้อีก เราเลือกการเดินทางในเขตที่มีเส้นทางหลายสายแล้วมองเห็นได้ไกล เราส่องหาหนองน้ำต่างๆด้วยระหว่างช่วงที่กวางลงมากินน้ำ กับยังตามแกะรอยพวกมันไปในกองไม้ที่ตัดแล้วเพื่อให้คุ้มเวลาที่สุด
เรามาหยุดเอาในคืนสุดท้าย โดยยังคงตระเวนหาหนองน้ำตามพื้นที่สาธารณะใกล้เมือง ไม่มีทางที่น้ำจะระบายออกจากภูเขาเลยในระดับต่ำๆ ผมจึงนั่งคอยอยู่ใกล้หนองน้ำรอให้กวางที่ไม่ทันได้เฉลียวใจมาแล้วยิง เราเดินไขว้กันไปในระหว่างกองไม้ซุงกับกลางหนองน้ำ ดั๊กกับผมเดินขนาบกันไปในแนวป่าริมหนองแบบคนสองคนเดินเข้าหากวางเหมือนที่เคยทำในเพ็นซิลเวเนียระหว่างฤดูร้อนตอนที่ยังเป็นเด็ก เราค่อยๆย่องไปอย่างระมัดระวังตามขอบบึง
ผมมองฝ่าหมอกไปเห็นดั๊กยืนนิ่งโดยมีกวางตัวเมียตัวหนึ่งวิ่งมาทางผม ผมลงนั่งคุกเข่าเมื่อมันวิ่งผ่านไปก่อนจะมีกวางตัวผู้วิ่งตามมันมาห่างไปหกสิบหลาซึ่งผมยิงไม่ถึง เราจ้องตากันโดยมันเดินเรื่อยเปื่อยไปบนพื้นอ่อนนุ่ม ส่วนผมนั้นจมโคลนอยู่ มันเดินทอดน่องจากไปเงียบๆระหว่างผมต้องกระเสือกกระสนออกจากโคลน เดินกลับไปที่รถบรรทุกพร้อมกับดั๊กท่ามกลางความมืด
เรากินปลาฮาลิบัต กินกุ้งลายจุดและปูกันที่บ้าน นั่งคุยกันเรื่องที่ออกไปล่ามา จากเรื่องการล่าและแผนที่เราจะต้องเปลี่ยนในการล่ากวางแบล็คเทลครั้งต่อไปในอลาสกาใต้ ยามค่ำได้จากไปแล้วพร้อมกับอาหารและเบียร์อีกจำนวนหนึ่ง และผมที่คิดถึงตอนที่เราเจอพวกนักท่องเที่ยวช่วงต้นทาง
“โชคดี!” คำนี้ยังดังก้องอยู่ในหัวผม มีทั้งที่เฉียดฉิวและเกือบได้เหยื่อ เราเข้าไปได้ไม่ไกลพอที่จะปิดเกมและกำลังออกมาจากตรงนั้นกันอย่างสะบักสบอม แต่เมื่อมองไปรอบๆผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณกับโชคชะตาที่ได้มาพบกับคนกลุ่มนี้ ขอบคุณสถานที่แห่งนี้สำหรับประสบการณ์ต่างๆและบทเรียนที่ได้เรียนรู้ และสำหรับประเพณีใหม่นี้ เพราะส่วนที่ดีที่สุดในการสร้างประเพณีคือการรู้ว่าเรามีโอกาสได้กลับมาในปีต่อไปเสมอ
© 2006-2020 TANKstore All Rights Reserved.